https://tipstiptip.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 Tips Tip Tip

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561

7 ชนิดคราบเปื้อน@ทริค! วิธีขจัดออกง่ายๆ


วันนี้เรามาบอกต่อเคล็ดลับจากผู้รู้ สำหรับวิธีขจัดคราบเปื้อนเสื้อผ้า 7 ชนิด
ที่เกิดขึ้นกับเสื้อผ้าของเรา นั่นก็คือจาก  ไวน์ ,ช็อกโกแลต ,พื้นสนามหญ้า ,
เลือด ,กาแฟ ,น้ำมันและหมึก เป็นวิธีทำความสะอาดคราบเปื้อนได้อย่างง่าย





คราบไวน์ 

หากเนื้อผ้าสามารถซักได้ ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบถู ๆ ไปตรงรอยเปื้อนเพื่อขจัด

คราบบางส่วนออกไปก่อน จากนั้นนำไปซักตามปกติ แต่หากเนื้อผ้าที่เลอะไม่
สามารถซักได้ ให้ใช้น้ำยาซักแห้งขจัดคราบนี้แทน หรือถ้าเป็นคราบไวน์ใหม่ๆ 
ที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็ให้รีบนำน้ำโซดามาเทตรงคราบก่อนนำไปซัก เพียงเท่านี้คราบ
ไวน์ก็จะขจัดออกได้แล้วค่ะ

คราบช็อกโกแลต


เมื่อช็อกโกแลตสีเข้มเลอะเสื้อ หลายคนมักจะตกใจกลัวจะซักไม่ออก วิธีแก้คือ

ปล่อยทิ้งไว้จนกว่าช็อกโกแลตแข็งตัว จากนั้นใช้ช้อนหรือมีดปาดเนย ค่อย ๆ 
แซะช็อกโกแลตที่แข็งตัวแล้วออกไปบางส่วน แล้วนำไปซักตามปกติ หรือใช้
เศษผ้าสีขาวรองไว้ใต้คราบเปื้อน จากนั้นใช้นิ้วป้ายน้ำยาขจัดคราบมาถูตรง
คราบแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ก็จะออกได้ง่ายขึ้น

 

คราบเปื้อนพื้นสนามหญ้า


หากวันไหนจำเป็นต้องทำสวนที่บ้าน หรือ เด็กน้อยวัยซนนอนกลิ้งไปกลิ้งมา

บนพื้นสนามหญ้า ยังไงซะก็ต้องมีคราบเขียว ๆ ติดมากะเสื้อผ้าอย่างแน่นอน 
วิธีแก้ไขคือ ใช้น้ำยาขจัดคราบที่มีขายตามท้องตลาดนี่แหละ มาป้าย ๆ ตรง
คราบแล้วทิ้งไว้สัก 3 วัน จากนั้นค่อยนำมาซักให้คราบหายอย่างหมดจด




รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

คราบเลือด


คราบเลือดขึ้นชื่อว่าขจัดได้ยากสุด ๆ ดังนั้นเมื่อเลือดเลอะเสื้อผ้าแล้วต้องรีบ

จัดการโดยเร่งด่วน เริ่มต้นจากการฉีดน้ำเย็นใส่ลงไปตรงคราบแรง ๆ และขยี้
ให้ออก จากนั้นนำไปซักตามปกติ แต่ถ้าเป็นคราบเลือดที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ 
แนะนำให้นำผ้าไปแช่ในน้ำที่ผสมแอมโมเนียแล้วทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นค่อย
ซักตามปกติก็หายเกลี้ยง

คราบกาแฟ

หนุ่มสาวออฟฟิศและคนวัยทำงานอีกมากมายต้องประสบปัญหาคราบกาแฟ

อยู่บ่อยครั้ง ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะคราบกาแฟไม่ได้กำจัดยากเย็นอย่างที่คิด 
หากเป็นคราบใหม่ ๆ ให้รีบขยี้ออกด้วยน้ำสบู่ แต่ถ้าคราบเริ่มติดแน่นให้แช่น้ำ
ผงซักผอกผสมน้ำสบู่ทิ้งไว้ จากนั้นก็นำไปซักให้สะอาดก็หมดจดแล้ว

และอีกวิธีหนึ่งคือ ใช้แป้งข้าวเจ้าถูบริเวณรอยเปื้อนกาแฟ แล้วนำไปซักตาม
ปกติ แค่นี้รอยเปื้อนกาแฟก็จะหายไป


คราบน้ำมัน


หากทำอาหารอยู่แล้วน้ำมันกระเด็นมาติดเสื้อผ้าไม่ต้องตกใจ ให้รีบคว้า

แป้งไปโรยบนคราบ จะเป็นพวกแป้งข้าวโพด เบกกิ้งโซดา หรือแป้งเด็ก
ธรรมดาก็ได้ จากนั้นรอสักพักถ้าหากคราบยังคงหลงเหลืออยู่ ให้ใช้น้ำยา
ซักแห้งขยี้ออก ในขณะที่ซักอย่าลืมนำผ้าสีขาวเล็ก ๆ ที่มีผงแป้งติดอยู่
มารองใต้คราบด้วย


คราบหมึก


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

สเปรย์ฉีดผมสามารถขจัดคราบน้ำหมึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยให้นำเศษผ้าที่

ไม่ใช้แล้วรองไว้ใต้คราบ จากนั้นพ่นสเปรย์ใส่ตรงคราบจนกว่าผ้าจะเปียกชุ่ม 
ทิ้งไว้สักครู่ถ้าหากคราบยังหลุดไม่หมดก็ทำต่อเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด แล้วก็
รีบนำไปซักให้เร็วที่สุด เพียงเท่านี้เสื้อผ้าก็จะกลับมาสะอาดได้เหมือนเดิมผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปคราบเปื้อนเสื้อผ้า


ปล. นอกจากนี้ให้จำไว้เสมอว่า คราบที่เพิ่งเกิดใหม่ ขจัด
ออกง่ายสุดแล้ว 
ดังนั้นเมื่อเสื้อผ้าเลอะคราบเปื้อนต่างๆ ให้รีบจัดการทันที! เป็นการดีที่สุด! 


วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Tips : ทอดอาหารชุบแป้งให้กรอบอร่อย



เคล็ดลับ(การทอดกรอบ)จากผู้รู้ !  

เวลาเราทอดอาหารที่ชุบแป้งทอดกรอบ
ตอนนำขึ้นมาใหม่ๆ ก็กรอบดีอยู่หรอก แต่พอทิ้งไว้สักพักก็หายกรอบ
เฉยเลย ! แต่ว่า...ทำไม ? แล้วที่พ่อค้าแม่ค้าทอดขายกันจึงกรอบนาน


เทคนิคที่ว่าไม่ยุ่งยากเลย เพียงเวลาละลายแป้งแล้วต้องทิ้งไว้
ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นนำของที่จะชุบแป้งทอดนั้น
นำมาชุบแป้งทอดตามปกติ ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

ทีนี้..เราก็จะได้ของทอดที่กรอบนานและอร่อยไม่อมน้ำมันค่ะ



Tips! วิธีทอดให้กรอบอร่อย !
(จากผู้เขียน)

เชิญชมคลิปวิดีโอ
วิธีทอดฟักทองและมันเทศในกรอบอร่อย
(English Subtitle)



https://youtu.be/SWDYS8AAH3A





food.mthai.com

อาหารประเภททอด ที่หลายคนชื่นชอบในความกรุบกรอบถูกปาก อย่างเช่น กุ้ง ปลาหมึก หมู และ ไก่ แม้กระทั่งผักหรือดอกไม้ที่เอามาชุบแป้งทอดก็อร่อย วิธีการบางอย่างก็ใช้ไข่และเกล็ดขนมปังมาผสมด้วย แต่จะชุบยังไงก็แล้วแต่ การทอดนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาหารชุบแป้งทอดของเราน่ารับประทานและอยู่ได้นานมากยิ้งขึ้น

เคล็ดลับการทำอาหารชุบแป้งทอด 

ให้กรุบกรอบน่ากิน

เคล็ดลับการทำอาหารชุบแป้งทอด
  1. ใช้น้ำมันที่มีปริมาณมากกว่าอาหาร เวลาทอดให้น้ำมันท่วม อาหารจะได้ความร้อนทั่วชิ้น
  2. ก่อนที่นำอาหารลงไปทอดรอให้น้ำมันร้อนก่อน วิธีสังเกตน้ำมันเริ่มให้หยดแป้งลงไปทดสอบก่อน หากแป้งค่อยๆ ฟูขึ้นมาแล้วสุกเป็นสีเหลือง แสดงว่าน้ำมันร้อนแล้ว
  3. ใช้ไฟกลางความร้อนจะกระจายไปทั่วกระทะ
  4. เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ก็นำอาหารลงไปทอด แต่อย่าเพิ่งไปเขี่ยไปคนนะ เดี๋ยวแป้งจะติดตะหลิวแล้วแป้งจะไม่เกาะไปกับเนื้อสัตว์ ปล่อยให้แป้งด้านนอกสุกและแข็งตัว จากนั้นก็ค่อยใช้ตะหลิวพลิกกลับด้านมาทอดอีกด้านหนึ่ง

11 เคล็ดลับ+ข้อดี @ วาสลิน

วาสลีน 10 วิธีใช้เพื่อความงาม

 วาสลีน นั้นมีข้อดีเพียบ  
รู้แล้วต้องหาไปใช้กันแน่นอน!

วาสลินช่วยรักษาของที่เป็นโลหะให้เงางามไม่ผุกร่อน
ของที่เป็นโลหะนั้นเมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะผุกร่อนไปตามกาลเวลา

วิธีรักษาไม่ให้โลหะผุกร่อน 

ให้ใช้วาสลินทาผิวโลหะทุกครั้งที่ใช้ แล้วนำมาทำความสะอาด
ก็จะทำให้ความสะอาดได้ง่ายและเช็ดแห้งเร็ว
ทำให้โลหะไม่ผุกร่อนด้วยค่ะ


10 เคล็ดลับ ! วาสลิน เพื่อความสวยงาม
1.เจลสครับปากด้วย วาสลีน โดยนำวาสลีนผสมกับน้ำตาลทรายละเอียด
vaseline-012.เป็นครีมบำรุงผิว เพียงแค่ทาวาสลีนบางๆ บริเวณที่ผิวแห้งกร้าน หรือผิวหยาบช่วงข้อศอกหรือเท้า แล้วสวมถุงเท้าทับก่อนนอน ตื่นขึ้นมาคุณจะได้ผิวที่นุ่มเหมือนผิวเด็กเลยล่ะ

vaseline-02

3.เมคอัพรีมูฟเวอร์ชั้นดี โดยวาสลีนนั้นสามารถช่วยล้างเครื่องสำอางค์บริเวณรอบดวงตาได้ดี เพียงแค่ใช้สำลีแตะ แล้วเช็ดออกเบาๆก็สะอาดเกลี้ยงโดยไม่ต้องขัดถูเลย


vaseline-03
4.ตัวช่วยในการทำสีผม เวลาที่คุณสาวๆทำสีผมด้วยตัวเองที่บ้าน ก่อนจะลงมือละเลงสีลงไปบนหัว ให้นำ วาสลีน มาทาบางๆ รอบโคนผมตรงบริเวณหน้า เพราะหากสีผมไหลมาติด ก็แค่เช็ดออกเบาๆก็เรียบร้อย

vaseline-06
5.ช่วงหน้าหนาวหรืออากาศเย็น ป้องกันจมูกลอก ด้วยการนำวาสลีนมาตบเบาๆบริเวิณจมูก


vaseline-05
6.ตบวาสลินเบาๆที่โหนกแก้ม เพื่อให้แก้มดูเป็นเงาใบหน้าจะดูสดใสขึ้น หลังจากแต่งหน้าบริเวณอื่นให้เรียบร้อย แค่นี้ก็ได้เทรนด์แต่งหน้าที่ดูฉ่ำตามเทรนด์แต่งหน้ารันเวย์เลยทีเดียว


vaseline-07
7.เลือกสีอายแชร์โดว์หรือบลัชออนที่ชอบมาบดเป็นผงแล้วผสมกับวาสลีนเล็กน้อย จะได้ลิปปาล์มไว้ใช้สำหรับหน้าหนาวช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื้นและยังได้สีที่ชอบอีกด้วย 

ที่มาภาพจาก alittlebirdyblog.com

vaseline-08
8.ปกป้องผิวหนังรอบๆเล็บไม่ให้ลอกล่อนเป็นขุย ด้วยการนำวาสลีนมาทาบางๆรอบๆเล็บ และยังสามารถทำได้ก่อนที่คุณจะทาเล็บ ก็จะช่วยให้ช่วยเช็ดสีทาเล็บที่เลอะรอบๆออกได้ง่าย และยังช่วยบำรุงผิวบริเวณนั้นได้อีกด้วย


vaseline-09
9.รับมือกับผมทรงหางม้า ให้ผมดูเรียบสวยไม่พันกันยุ่ง ด้วยการแตะวาสลีนเล็กน้อยแล้วลูบที่ผมเป็นแนวยาวลงไป จะได้ลุคของผมหางม้าที่ดูดีกว่าผมฟูๆนะจ๊ะ


vaseline-010
10. แตะ วาสลีน นิดหน่อยในบริเวณที่จะพรมน้ำหอมลงไป จะทำให้กลิ่นน้ำหอม
ติดทนยาวนานขึ้นกว่าเดิมจ้า

ลองนำไปใช้กันดูนะจ๊ะสาวๆ หรือถ้าใครมีเทคนิคของ วาสลีน ดีๆ
อย่าลืมมาแชร์บอกเราเพิ่มด้วยล่ะ แบ่งๆกันสวยโน๊ะ


เรียบเรียงโดย Women Mthai Team ขอบคุณเนื้อหาจาก michellephan


วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ทริค ! การเลือกซื้อน้อยหน่า






เมื่อถึงหน้าน้อยหน่าทีไรใครๆ ก็อดใจที่จะไม่ซื้อมารับประทานได้
เพราะความหวานหอมที่เป็นเสน่ห์ของผลไม้ไทย พอถึงหน้าผลไม้นั้นๆ
เราก็อดใจไม่ได้ แต่ว่าซื้อมารับประทานทีไรเป็นได้เรื่องทุกที เหตุเพราะ
เลือกซื้อไม่เป็นนั่นเอง บางทีแม่ค้าบอกเราว่าพรุ่งนี้ก็สุกแล้ว พอซื้อมาจริงๆ
ไม่ยอมสุกสักที !!! เป็นเพราะอะไรกันนะ ? 


เรามารู้จักวิธีเลือกซื้อน้อยหน่ากันดีกว่า การเลือกซื้อควรเลือกซื้อผลน้อยหน่า
ขนาดใหญ่ๆ มีตาของน้อยหน่าห่างมากๆ  ผิวมีสีนวลๆ สีเขียว หรือสีม่วง อ่อนลง
สีนวลๆ อย่างนี้เขาเรียกว่า ผลน้อยหน่าแก่จัดแล้ว รับรองว่าสุกไว พอบีบผิวดูนุ่มๆ 
ก็สามารถแกะเปลือกน้อยหน่าออก นำมารับประทานได้เลย 
รับรองว่าน้อยหน่าหวานอร่อย ....แน่นอน !






@ เกล็ดความรู้ @


ใบ – นำมาบดใช้พอกแก้อาการฟกช้ำบวม รวมทั้งแก้โรคกลากเกลื้อน 
ช่วยฆ่าพยาธิตามผิวหนัง หรือขับพยาธิ และช่วยฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกาย ให้รสเฝื่อนเมา

เปลือกผลดิบ – นำมาฝนกับเหล้าเพื่อทาแผล และแก้อาการจากงูกัด ให้รสเฝื่อนเมา

เมล็ด – นำมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวใช้ทาเพื่อฆ่าพยาธิผิวหนัง 
และฆ่าเหา หรือหิด ให้รสเมามัน

เปลือกต้น – ช่วยในการสมานบาดแผล ให้รสฝาดเฝื่อน

ราก – ช่วยในการระบายอุจจาระธาตุ ให้รสเฝื่อน





ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้อยหน่า


วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Good Tips !


Good Topup งานเสริมดีจริง! : ขอเล่าสู่กันฟัง !


" บางคนบอกว่าเงินไม่ใช่พระเจ้า..แต่ปัญหาทุกอย่างก็แก้ไขด้วยเงิน >> มิใช่หรือ ? "


ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งในโลกใบนี้.....ที่มีความจำเป็นจะต้องหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว อยู่เป็นประจำเสมอมา..หรือเรียกอีกอย่างว่า ดิฉันเกิดมาเพื่อเป็น " ผู้ให้ " หรืออีกตำแหน่งหนึ่งที่หนักหนาสาหัสสำหรับลูกผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็คือตำแหน่ง "หัวหน้าครอบครัว " .....อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และตัวดิฉันเองก็เต็มใจที่ได้รับตำแหน่งนี้ไปจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่

ดิฉันรับราชการมาตั้งแต่อายุยังน้อยคือ 19 ปี รวมอายุราชการก็ 30 ปี เต็ม ดิฉันถึงได้ตัดสินใจลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณก่อนกำหนด หรือที่เค้าเรียกกันว่าเออรี่รีไทร์..หน้าที่ราชการเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ใต้บังคับบัญชาถึง 300 กว่าคน รับผิดชอบงานสำคัญๆของบ้านเมือง ในท้องถิ่นหลายแห่ง ....คงมีคนสงสัยว่าแล้วทำไม?.... ถึงลาออกทั้งๆที่หน้าที่ราชการกำลังเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก....คำตอบของดิฉันคือ : ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรับใช้นักการเมืองได้ดีอีกต่อไป

หลังจากที่ดิฉันได้ลาออกจากราชการแล้วก็กลับมาเป็นประชาชนคนธรรมดาๆ เดินดิน และดูเหมือนเช่นเป็นคนตกงานคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีเงินบำนาญจากทางราชการให้ไว้ดำรงชีวิตครอบครัว อยู่เป็นประจำทุกเดือน....ตามสิทธิ์ ตามระเบียบ กฎหมาย อย่างถูกต้องที่ดิฉันควรจะได้รับ ดิฉันขอพูดอย่างเต็มปาก และด้วยความภาคภูมิใจว่า
" ดิฉันคือข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "
ดิฉันได้รับราชการตั้งแต่อายุยังน้อย..เริ่มต้น ซี 1 เงินเดือนครั้งแรกเพียง 750 บาท ต้องทำงานไปด้วย เรียนเพื่อปรับวุฒิไปด้วยตลอดเวลา ....เนื่องมาจากเป็นครอบครัวที่ยากจน จึงทำให้ต้องกู้เงินสวัสดิการ เงินกู้สหกรณ์ มาใช้จ่ายตลอดเวลา รวมถึงหนี้บัตรเครดิตต่างๆ มากมาย นำมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไม่เคยนำพากับคำว่า "อยู่อย่างพอเพียง" สนุกไปกับเครดิตที่ทางสถาบันการเงิน ได้เชิญชวนให้ข้าราชการเป็นสมาชิกเป็นอย่างดียิ่ง ตัวเราเองก็สำคัญมีความโลภ อยากได้ อยากมี ไม่ให้เกินหน้าเกินตา โอ้อวดกัน

เหล่านี้จึงเป็นสาเหตุให้นำเงินในอนาคตมาใช้ก่อนและผ่อนกันทีหลัง ....เป็นลูกโซ่ เป็นวงจร หมุนเวียนอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ไม่แตกต่างจากเพื่อนข้าราชการคนอื่นๆมากนัก..และมีน้อยคนที่จะมีเงินเดือนเหลือเพียงพอ ก็โชคดีไป เกือบ 80% ที่อยู่ในวงจรอุบาทนี้
ใครจะตัดใจ หักดิบ ออกจากวงจรนี้ได้ ก็น้อยคนจริงๆ
ถึงออกมาได้เหมือนดิฉัน ก็แทบจะอาเจียรเป็นเลือดเลยทีเดียว เพราะเงินบำนาญรับในแต่ละเดือนแล้ว แทบไม่เหลือใช้จ่าย....เรื่องเก็บออมนั้นไม่ต้องพูดถึง

ดิฉันออกมาจากวงจรนั้น ด้วยอายุยังไม่มากพอที่จะอยู่เฝ้าบ้านเมื่อยามแก่ชรา....ก็ดิ้นรนหาธุรกิจส่วนตัวทำ ทำไปก็เจ๊งไป หลายแห่งทั้งในเมือง หรือนอกเมือง..หนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ ชีวิตกลับลงมาสู่คำว่าศูนย์ 0 สูงสุดสู่สามัญ จริงๆ .....ดิ้นรนจนหมดหนทางจะดิ้นอีกต่อไปก็กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ แต่ก็อยู่อย่างสงบไม่ได้ เพราะหนี้สินมันรัดตัว ไปหมด ....เมื่อจิตป่วยไม่สงบก็ไปถามหมอดู ต่างๆ หลายสำนัก ก็หมดเงินค่าครูไปอีก ไม่มีคำตอบอะไรแน่นอนหรอก จะมีก็แต่เทพยดาประจำตัวเท่านั้นบอกว่า " ให้อยู่นิ่งๆ " นี่คือสิ่งที่ทายถูกต้องที่สุด ง่ายที่สุด.... เรารู้ แต่ เราก็ทำยาก หรือทำไม่ได้เพราะจิตใจไม่แข็งพอ

สุดท้ายแล้ว.....เมื่อไม่มีอะไรจะดิ้นรนแล้ว ธรรมชาติมันก็บังคับให้เราอยู่ นิ่งๆ ได้เองนั่นแหละ..........เมื่อถึงเวลาหนึ่ง หลังจากดิฉันดิ้นรนมาเกือบตลอดชีวิต และถึง 5 ปีเต็มๆ หลังออกจากราชการมา จนในวันนี้เหมือนน้ำมันนิ่งใส ไม่ขุ่น จึงสามารถมองเห็นอะไรๆได้ชัดเจนขึ้นมามาก เหมือนเรานั่งดูหนังชีวิตเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ตอนที่ทำงานเงินก็ไม่พอใช้ คิดหาหนทางจะได้เงินเพิ่ม เพื่อใช้จ่าย ใช้หนี้ มันก็ไม่ได้ ไม่มีหนทางสำเร็จ....

เพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหาย พากันไปทำธุรกิจเสริม นั่นดี นู่นดี ก็ทำตามเค้าไป เกือบสิบยี่สิบแห่ง หมดเงินไปก็หลายหมื่นอยู่ ก็เป็นสมาชิกไปอยู่ทั่วเชียวแหละ แต่โอกาสมันเป็นของเราน้อยเกินไป บางคนเค้าก็ได้เงินกันจริงๆนะ....ก็ไม่ได้ว่ากัน ก็ หนึ่งในล้าน หนึ่งในแสนก็ว่ากันไป ....ถูกหลอก ถูกโกง ก็เคย วุ่นวายไปหมดชีวิตนี้ จะว่าอยู่ง่ายก็ง่าย จะว่าอยู่ยากก็ยาก..แต่จะหนักไปทางยากมากกว่า ดิฉันเองก็ไม่หวังร่ำรวยเป็นเศรษฐีหรอกนะ ขอเพียงให้รายได้มันมากกว่ารายจ่ายก็เพียงพอแล้วแหละ อย่างดีก็เหลือเงินเก็บ เงินออมไว้ยามจำเป็นบ้างเหมือนใครเขาก็พอแล้ว

ถึงอยู่บ้านตอนนี้เฉยๆ ก็ยังมีคนเข้ามาชวน...บางคนเอารถมารับไปฟัง ไปอบรม ....ก็ไปๆกับเขาหลายครั้งแต่สรุปสุดท้ายก็คือต้องลงทุน ไม่มาก ก็น้อย ส่วนมากจะมากอยู่นา.....ต้องซื้อของใช้อีก เพิ่มยอด ไอ่ค่าข้าวปลาอาหารก็ต้องซื้อ ต้องกิน แล้วจะเอาเงินเหลือไหนไปซื้อ ไปลงทุนกัน บางทีก็ต้องซื้อตำรากลยุทธ์กันเลยทีเดียว เล่มละหลายเงิน ก็ต้องอ่านกันหลายเล่มด้วยซิ ก็จะได้เงินล้านเหมือนเค้าที่ประสบความสำเร็จ....ดิฉันกลับมามองตัวเองมันไม่เห็นหนทางไปเลย ก็เลยต้องหยุด ก็ทำให้เสียเงิน เสียเวลาไปบ้าง

จะอยู่เฉยๆ นิ่งๆ ที่บ้าน มันก็สบายเกินไปอีกแหละ...ดูซีรี่ย์เกาหลี ยี่สิบสามสิบตอนก็จนหมดแล้ว ไม่รู้จะหาอะไรทำดี....สบายกาย แต่ใจมันไม่สบายนะซิ นะ คนหนอคน ก็พยายามหาความพอดีอยู่ มันต้องมีสักทางซีน่าวันๆให้ได้เงินเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง ร้อยสองร้อยก็ยังดี ใช่มั่ย ?................................?

แต่ในที่สุด.... ณ วันนี้ ชีวิตก็มีความสุขขึ้น พอใจกับการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จากการที่ทุกวันต้องท่องโลกไซเบอร์ เล่นๆ ชิวๆ กลับกลายมาเป็นสร้างธุรกิจเล็กๆขึ้นมา..จากการจัดการรายจ่ายประจำ ให้มาเป็นรายได้....ค่าเติมเงินมือถือ บิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าบัตรเครดิต ซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ ฯลฯ อีกร้อยกว่ารายการได้ส่วนลดทัน ก็ประหยัดไป ทั้งค่าการเดินทาง น้ำมันรถ ไปต่อคิวชำระเงิน วุ่นวาย ในแต่ละเดือน ก็ซื้อแฟรนไชส์ระบบ OSO มาทำเอง ง่ายๆ สบายๆ 


แล้วยังสามารถรับบริการเติมเงิน ชำระบิล ให้แก่บุคคลอื่นๆได้อีก ....ขยันนำไปโพสในเฟสบุ๊ค บอกต่อเพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย ก็ได้รายได้เพิ่มขึ้น จากลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ ค่าขยายแฟรนไชส์ มีรายการ คู่มือการใช้ การแนะนำฟรี! มีคนทำได้จริงสูงสุดถึงวันละ 6,800 บาท เลยทีเดียวค่ะ ....แฟรนไชส์ระบบนี้ดีจริงๆตอนที่ดิฉันสมัคร สัปดาห์แรก .....แนะนำใครไปก็เฉยๆ คนที่สนใจก็ไม่มีเงินสมัคร คิดๆแล้วว่าตัวเองคงจะสูญเงินอีกเช่นเคย แต่ก็ได้ตัดใจลองทำอีกสักครั้งเป็นครั้งสุดท้ายถ้ามันไม่ดีจริง ก็ต้องตัดใจหละนะ

ก็คิดว่าจากการที่ดิฉันได้คิดแล้วคิดอีก ตัดสินใจสมัครไปตอนแรกเพียง 1 แฟรนไชส์ 1,200 บาท เท่านั้น ...(บริษัท กู๊ดท็อปอัพ..เค้าให้ตัดสินใจซื้อในตอนแรกครั้งเดียวเท่านั้น ว่าจะซื้อ 1 หรือว่า 3 แฟรนไชส์) จากที่เคยมีประสบการณ์เป็นสมาชิกมาเกือบจะทุกบริษัทเป็นสิบๆปีมาก่อนนี้ เป็นไปไม่ได้สักอย่างก็เลยกลัว สูญเงินอีกเข็ดขยาด
แต่อีกใจหนึ่งก็อยากลอง อยากทำดู....

เพราะเห็นว่าไม่ได้ไปซื้ออะไรเพิ่มอีก  จะใช้ก็จากที่เรามีรายจ่ายอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว....ก็เห็นว่าเข้าท่าดี ก็เลยคิดลองทำดู.....พอสัปดาห์ที่สอง .....ที่ว่าระบบเขาวางไว้ดีจริง!..ก็คือ เราท้อ เรางง เราจะถอย....แต่เพื่อนสมาชิกทั้งก่อน และหลังเรา เค้าทำงาน แนะนำ ได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น ทุกวันๆ ทำให้ธุรกิจมันเดิน ระบบงานจากโซเชียลเน็ตเวิร์ค มันทำงานตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ไม่มีพัก จึงดีมาก เหมือนระบบมันทำงานอยู่ตลอดเวลาไปด้วยกัน กับเรา ดีจริงๆ เพียงสองสัปดาห์ก็ได้เงินคืนทุนเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว มีสมาชิกเพิ่มขึ้นๆ ทุกวันๆ ได้กำลังใจที่จะทำงานกับธุรกิจนี้ต่อไป และมีโครงการขยายธุรกิจเป็นเคาร์เตอร์เซอวิสในเร็วๆนี้ค่ะ


โพสต์แนะนำ